• Home
  • ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งประตู-หน้าต่าง

ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งประตู-หน้าต่าง


ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม” เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาคารและที่อยู่อาศัย เพราะประตูหน้าต่างที่ดีจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สบายมากขึ้น ช่วยลดความร้อน ป้องกันฝุ่นละออง ประหยัดพลังงาน ป้องกันการรั่วซึมของน้ำ และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย การเลือกชนิดของบาน ยี่ห้ออลูมิเนียม รวมถึงรูปแบบการใช้งาน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย สภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม ทิศทางของแดด ลม ฝน ให้เหมาะสม
เราได้รวบรวม Check List ข้อควรรู้ที่เจ้าของบ้านควรศึกษา ก่อนจะตัดสินใจเลือกติดตั้งประตู หน้าต่างอลูมิเนียม เพื่อให้เจ้าของบ้านได้ประตู หน้าต่างที่ตอบโจทย์การใช้งานและเกิดประโยชน์มากที่สุดตามนี้
  • ยี่ห้อและชนิดของเส้นอลูมิเนียมที่ใช้ประกอบเป็นบานประตูหน้าต่าง
  • ตำแหน่งที่ติดตั้ง เป็นภายในหรือ ภายนอกอาคาร มีความจำเป็นต้องรองรับน้ำ ลม ฝุ่น เสียง แรงกระแทก มากน้อยเพียงใด
  • ประเภทและลักษณะของประตูหน้าต่างแบบต่างๆ อาทิ บานเลื่อน บานกระทุ้ง บานตาย ฯลฯ
  • ผู้ใช้งาน มีความต้องการหรือข้อจำกัดอย่างไร เช่น เป็นจุดที่เปิด-ปิดบ่อย, มีการใช้รถเข็น, มีเด็กเล็ก, ห้องความดันลบ, ระบบล็อกอัตโนมัติ ฯลฯ
  • การทดสอบของประตูหน้าต่าง เช่น มอก.ระดับ 1-5 หรือ มาตรฐานอื่นๆ อาทิ การกันน้ำ กันลม กันฝุ่น 
  • สี ความหนา และ เกรด ของเนื้ออลูมิเนียม 
  • ชนิดกระจกที่เหมาะสมกับการใช้งาน
  • อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ ประตู-หน้าต่าง อาทิ ลูกล้อ มือจับ ตัวล็อก ซิลิโคน ยางกันน้ำ การฉีดโฟม ฯลฯ
  • ความชำนาญการของผู้ติดตั้งอลูมิเนียม
  • ข้อจำกัดของพื้นที่ติดตั้ง เช่น สามารถขนส่งบานขนาดใหญ่เข้าไปได้หรือไม่ งานซ่อมแซม(รีโนเวท) ต้องมีการรื้อถอน หรือ เกี่ยวข้องกับวัสดุอื่นๆหน้างานหรือไม่ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ อาทิ เครนยก หรือ กระเช้า เพื่อทำการติดตั้งหรือไม่ ตลอดจนลำกับการเข้างานของคิวช่างแต่ละประเภท ช่างปูน ช่างไม้ ช่างฝ้า ช่างอลูมิเนียม ช่างสี ช่างผ้าม่าน ฯลฯ
1. ยี่ห้อและชนิดของเส้นอลูมิเนียมที่ใช้ประกอบเป็นบานประตูหน้าต่าง
การเลือกใช้ประตู-หน้าต่างอลูมิเนียม ข้อควรคำนึงอันดับแรกคือยี่ห้อเส้นอลูมิเนียมที่ได้มาตรฐาน อลูมิเนียมเป็นวัสดุที่ต้องใช้ความชำนาญการเฉพาะ ไม่เหมือนไม้หรือเหล็ก ที่สามารถตัดต่อ หรือเชื่อมหน้างานได้ บานประตูหน้าต่าง 1 บาน ประกอบด้วยเส้นอลูมิเนียมที่มีหน้าตัดหลากหลาย ประกอบเข้าด้วยกันผ่านระบบการเข้าล็อคลิ้น หรือ ยิงสกรูว์ อาทิ หน้าตัดเฟรมบม หน้าตัดเฟรมล่าง หน้าตัดเฟรมข้าง
ตัวอย่างหน้าตัดเฟรมบนบานเลื่อน
ตัวอย่างหน้าตัดเฟรมข้าง
ตัวอย่างหน้าตัดเฟรมล่างบานเลื่อน
เส้นอลูมิเนียมที่มีคุณภาพ จะถูกผลิตให้มีขนาดที่ถูกต้องด้วยความแม่นยำสูง จึงทำให้บานประตู-หน้าต่างมีความแข็งแรง ประกอบเข้ากันอย่างพอดี ไม่มีช่องให้น้ำรั่วซึม นอกจากนี้อลูมิเนียมทั่วไปมักมีสารก่อมะเร็งตกค้างจากกระบวนการทำสี เช่น สารโครเมียม, ตะกั่ว, ปรอท, หรือโลหะหนักต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การเลือกยี่ห้อเส้นอลูมิเนียมจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย

โออาร์เอ็ม คือ ระบบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมชุดพัฒนาที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพเทียบตามมาตรฐาน มอก 744-2563 ระดับ 5 (ระดับสูงสุด) เป็นรายแรกในประเทศไทย ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นเหนือประตูหน้าต่างระบบไทยมาตรฐานทั่วไป (หรือที่เรียกว่า “ชุดท้องตลาด”) เพราะผ่านการพัฒนามาจากระบบที่ใช้ในตึกสูง อลูมิเนียมเส้นโออาร์เอ็ม ผลิตโดย บริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตอลูมิเนียมรีดเส้นชั้นนำ คุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับตามประกาศของหน่วยงานภาครัฐ และสถาปนิก โดยมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล อาทิ มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น JIS, มาตรฐานสหรัฐอเมริกา ASTM, มาตรฐานประเทศเยอรมนี DIN รวมถึงประเทศไทย มอก. (หรือ TISI) เพื่อให้เส้นอลูมิเนียมมีความแข็งแรง แม่นยำต่อการประกอบประตูหน้าต่าง และ ปลอดสารก่อมะเร็งในทุกกระบวนการผลิต เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ครอบครัว ช่างอลูมิเนียม ผู้อยู่อาศัย สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม
2. ตำแหน่งที่ติดตั้งเป็นภายใน หรือภายนอกอาคาร ต้องรองรับน้ำ ลม ฝุ่น เสียง แรงกระแทก มากน้อยเพียงใด
ตำแหน่งที่ติดตั้ง ประตู-หน้าต่าง เป็นอีกหนึ่งข้อกำหนดการเลือกที่สำคัญ โดยแบ่งตามมิติของประสิทธิภาพที่จับต้องได้ง่ายๆ จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ภายในอาคาร หรือ พื้นที่ใต้ชายคา ที่ไม่ได้รับน้ำฝน ลม ฝุ่นต่างๆ และ แบบภายนอกอาคาร หรือ พื้นที่ที่ต้องรับแรงลม น้ำฝน ฝุ่นละอองต่างๆ เป็นสิ่งที่ต้องระบุความต้องการกับผู้ออกแบบและติดตั้งอลูมิเนียม เพราะถ้าเลือกผิดประเภท อาจจะได้ประตูหน้าบ้านที่เปิด-ปิดได้ลื่น น้ำหนักเบา แต่ไม่กันฝนและฝุ่น หรือ อาจจะได้ประตู-หน้าต่างภายในอาคารที่มีธรณี จนเดินสะดุดหกล้มได้
  • กลุ่ม ประตู-หน้าต่าง สำหรับ ภายนอกอาคาร มีความจำเป็นต้องรองรับน้ำ ลม ฝุ่น เสียง แรงกระแทก หรือ มีขนาดใหญ่พิเศษ ปัจจุบัน ระบบประตูหน้าต่างในไทยมีให้เลือกทั้งระบบไทยมาตรฐาน และ ระบบพัฒนา (ระบบพัฒนามีชื่อเรียกหลากหลาย ทั้งระบบยูโรบ้าง ระบบกึ่งยูโรบ้าง ระบบญี่ปุ่นบ้าง เราขอเรียกชื่อโดยรวมว่า ระบบพัฒนา) ระบบพัฒนาจะมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพของประตูหน้าต่าง อาทิ การป้องกันน้ำรั่ว, ป้องกันอากาศรั่ว, ทนแรงดันพายุ, กรองความร้อน, กันเสียงรบกวนเข้าบ้าน ฯลฯ ชนิดของประตู-หน้าต่างที่เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคาร ได้แก่ ชุดช่องแสง, บานเลื่อน หลากหลายรุ่น, หน้าต่างบานเปิด/กระทุ้ง, ประตูบานเปิดแบบมีธรณีและวงกบรอบตัว, บานเฟี้ยม, ระบบผนังกระจกที่ประกอบด้วยบานใหญ่พิเศษสำหรับพื้นที่สูง ห้องโถง หรืออาคารสูง ที่เรียกว่า เคอร์เทนวอลล์ (curtain wall)

ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อน ที่ติดตั้งภายนอกอาคาร
  • กลุ่ม ประตู-หน้าต่าง สำหรับ ภายในอาคาร หรือ พื้นที่ใต้ชายคา ที่ไม่ได้รับน้ำฝน ลม ฝุ่นต่างๆ เช่น ชุดช่องแสง, บานเลื่อน ธรณีหลังเต่า (ธรณีลาดไปกับพื้น) , บานเลื่อนรางแขวน (ไม่มีธรณี) , ประตูบานเปิด (ไม่มีธรณี) , ประตูบานเปิดสำหรับห้องความดันลบแบบไม่มีธรณี, ประตูบานสวิง ที่เปิด เข้า-ออก ได้ 180 องศา , บานเฟี้ยมแบบรางฝังพื้น
ประตูบานเลื่อน ที่ติดตั้งภายในอาคาร
3. ประเภทและลักษณะของประตูหน้าต่างแบบต่างๆ อาทิ บานเลื่อน บานกระทุ้ง บานตาย บานสวิง บานเฟี้ยม ฯลฯ
3.1 ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน
บานเลื่อน” สามารถทำได้ทั้งประตูและหน้าต่าง ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดเนื้อที่ ใช้งานง่าย เปิดด้วยการเลื่อนบานจากซ้ายไปขวา (หรือขวาไปซ้าย) จึงเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ตัวบ้าน และสะดวกต่อการใช้งาน บานเลื่อนคือประตูที่เลื่อนเปิดด้วยลูกล้อและรางที่อยู่ในวงกบ และมีรางมุ้งที่ติดมากับระบบรางอยู่แล้ว บานเลื่อนสามารถแบ่งย่อยออกได้หลายรูปแบบ
ตัวอย่างรูปแบบบานเลื่อน
ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน สำหรับใช้ภายนอก มีความจำเป็นต้องรองรับน้ำ ลม ฝุ่น เสียง แรงกระแทก หรือ มีขนาดใหญ่พิเศษ จึงมาพร้อมธรณีและเฟรมวงกบที่กันน้ำรอบตัว

ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน สำหรับใช้งานภายใน หรือ พื้นที่ใต้ชายคา ที่ไม่ได้รับน้ำฝน ลม ฝุ่นต่างๆ จะเน้นไปที่การแบ่งพื้นที่ กั้นห้อง หรือใช้งานในจุดที่ไม่ต้องการธรณีประตู การติดตั้งควรคำนึงถึงฟังค์ชั่นการใช้งานของพื้นที่เพื่อเลือกรุ่นให้เหมาะสม ปัจจุบัน บานเลื่อนสำหรับใช้ภายในมีให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ บานเลื่อนรางแขวน หรือที่เรียกว่าบานแขวน (ไม่มีธรณี) และบานเลื่อนธรณีหลังเต่า (ธรณีลาดไปกับพื้น)
ระบบบานเลื่อนของโออาร์เอ็ม (ORM) แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่
1. Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) เหมาะกับอุณหภูมิอากาศโซนร้อนชื้นในภูมิภาคเอเชีย (Asian Tropical)
2. Pano Suit (พาโน สูท) สำหรับทำบานขนาดใหญ่ เหมาะกับผู้ชื่นชอบวิวแบบพาโนรามา (Panorama)
ประตูหน้าต่างอลูมิเนียมโออาร์เอ็ม ทั้งรุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) และรุ่น Pano Suit (พาโน สูท) สามารถใช้กับงานติดตั้งภายนอกได้ทั้งคู่ เพราะออกแบบให้ป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมด้วยการออกแบบลิขสิทธิ์เฉพาะของโออาร์เอ็ม และยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่นเหนือระบบไทย (ชุดท้องตลาด) ดังนี้
  • แบรนด์อลูมิเนียม #1 ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันน้ำรั่ว ลมรั่ว การโก่งตัวของวงกบจากแรงลม ทนต่อแรงดันน้ำและอากาศ เทียบตามมาตรฐาน มอก 744-2563 ระดับสูงสุด เป็นรายแรกในประเทศไทย
  • ผ่านการพัฒนาจากระบบที่ใช้ในตึกสูง จึงแข็งแรง ปลอดภัย บานไม่กระพือ และไม่ตกราง แม้เจอลมพายุระดับไต้ฝุ่นหรือเฮอริเคน
  • ดีไซน์ทันสมัย เข้าได้กับทุกแบบบ้าน เพราะออกแบบให้กรอบบานดูสลิม ไม่หนาเทอะทะ รับวิวได้เต็มที่
  • สวยงาม สบายตา เพราะกรอบบานทั้ง 4 ด้าน มีความสมมาตร แตกต่างจากระบบไทยที่กรอบบานทั้ง 4 ด้านจะไม่เท่ากัน
  • กันจิ้งจก กันฝุ่น กันแมลง ปลอดภัยจากการงัดแงะ ด้วยระบบป้องกันการยกบาน และรองรับระบบล็อคหลายจุด
  • สามารถทำความกว้างได้ไม่จำกัดเพราะมีระบบต่อรางสำหรับบานเลื่อน รุ่น Pano Suit (พาโน สูท)
  • สามารถทำบานเลื่อนเข้ามุมได้ เพื่อให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่ เมื่อเลื่อนเปิดบานทั้ง 2 ด้าน
บานเลื่อน รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ)
ระบบบานเลื่อนโออาร์เอ็ม รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) มีขนาดเฟรมให้เลือก 2 ขนาด คือ 9 ซม. และ 4 นิ้ว เพื่อให้เหมาะสมกับหน้าปูน โดยเฟรมล่าง (หรือรางล่าง) ของแต่ละขนาด จะสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 แบบ คือ แบบธรณีสูง และแบบธรณีต่ำ เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับหน้างาน ทั้งงานติดตั้งภายนอก และงานติดตั้งภายใน ซึ่งหากเจ้าของบ้านต้องการติดตั้งประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม โออาร์เอ็ม (ORM) แบบ 3 บาน รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ก็มีรางขนาด 4 นิ้วให้เลือกใช้ได้
ประตูบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ)
หน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ)
ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) สำหรับงานติดตั้งภายใน
หน้าตัดเฟรมล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ขนาด 9 ซม. แบบธรณีสูง และธรณีต่ำ
หน้าตัดเฟรมล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ขนาด 4 นิ้ว แบบธรณีสูง และธรณีต่ำ
หน้าตัดเฟรมล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ขนาด 4 นิ้ว สำหรับ 3 ราง แบบธรณีสูง และธรณีต่ำ
หน้าตัดเฟรมล่าง ประตูบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ)
ขนาด 4 นิ้ว แบบ 3 ราง สำหรับติดตั้งภายใน 
บานเลื่อน รุ่น Pano Suit (พาโน สูท)
ระบบบานเลื่อนโออาร์เอ็ม รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) มีขนาดเฟรมให้เลือก 3 ขนาด คือ 9 ซม. 4 นิ้ว และ 6.5 ซม. เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับหน้าปูนและแบบบาน จุดเด่นของประตูหน้าต่างบานเลื่อน รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) คือสามารถทำบานขนาดใหญ่พิเศษได้ เพราะออกแบบให้ต่อรางได้ไม่จำกัด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิวแบบพาโนรามา นอกจากนี้ ยังมอบความสวยงาม สบายตา เพราะกรอบเฟรมทั้ง 4 ด้าน ถูกออกแบบความกว้างให้มีขนาดเท่ากัน บานประตู-หน้าต่างบานเลื่อนของโออาร์เอ็ม จึงมีความสมมาตร ดูสมส่วน
ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Pano Suit (พาโน สูท)
หน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Pano Suit (พาโน สูท)
หน้าตัดเฟรมล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) ขนาด 9 ซม. สำหรับบานเลื่อน 2 ราง
หน้าตัดเฟรมบน – ล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) ขนาด 4 นิ้ว สำหรับบานเลื่อน 3 ราง
หน้าตัดเฟรมบน – ล่าง ประตู-หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) ขนาด 6.5 ซม. สำหรับบานเลื่อน 2 ราง

เปรียบเทียบรางล่าง ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
สำหรับงานติดตั้งภายใน และงานติดตั้งภายนอก 
ความแตกต่างของประตู-หน้าต่างบานเลื่อนระบบไทยมาตรฐาน และระบบประตูหน้าต่างชุดพัฒนาโออาร์เอ็ม อาจสังเกตได้จาก “เฟรมล่าง” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ราง” เพราะเฟรมล่างหรือรางของระบบโออาร์เอ็มจะถูกออกแบบให้ช่วยกันน้ำ รวมถึงป้องกันสิ่งแปลกปลอมมากกว่าระบบไทย (ชุดท้องตลาดทั่วไป)

ราง ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อน ระบบไทยมาตรฐาน (ชุดท้องตลาด)

ราง ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อน ระบบชุดพัฒนา ORM (โออาร์เอ็ม)
การออกแบบบานเลื่อน สามารถกำหนดจำนวน และ การแบ่งบานให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ ตั้งแต่ 2 บาน 3 บาน และ 4 บาน โดยบานประตูอาจเลื่อนได้เป็นบางบานหรือเลื่อนได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเลื่อนไปในทางเดียวกันเพื่อเก็บที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของประตู หรือเลื่อนสลับจากแต่ละด้านเข้าหากัน โดยคำนึงถึงทิศทางการเดินเข้าออกของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

บานเลื่อน 2 บาน เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยม เพราะมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ของบ้านพักอาศัยในไทยส่วนใหญ่ เจ้าของบ้านสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อน โดยกำหนดให้ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสามารถเลื่อนสลับได้ทั้ง 2 ฝั่ง (Slide-Slide) หรือจะเลื่อนแค่บานเดียวก็ได้ (Slide-Fix)

บานเลื่อนสลับ 2 บาน ที่เลื่อนสลับจากแต่ละด้านเข้าหากัน

ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม) แบบ 2 บาน
บานเลื่อน 3 บาน หรือบานลากจูง (Slide-Slide-Fix) ช่วยให้ได้พื้นที่การเปิดถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่บาน เพราะสามารถเลื่อน 2 บานให้เก็บซ้อนกันในตำแหน่งของบาน Fix เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยในการเข้า-ออกเพิ่มมากขึ้น

บานเลื่อนลากจูง 3 บาน ที่เลื่อนเปิดบานไปในทิศทางเดียวกัน

ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) แบบลากจูง 3 บาน
บานเลื่อนแบ่ง 4 บาน (Fixed-Slide-Slide-Fixed) จะเปิดตรงกลางเพื่อให้บานซ้าย-ขวา เลื่อนไปซ้อนเก็บอยู่ในตำแหน่งบาน Fix ด้านข้างของทั้งสองฝั่ง

บานเลื่อนแบ่ง 4 บาน

ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) แบ่ง 4 บาน
หากสังเกตบานเลื่อนที่มีหลายๆบาน เจ้าของบ้านจะเห็นว่าเสาแนวตั้งในประตู-หน้าต่างอาจมีขนาดเท่ากันหรือต่างกัน เสาเหล่านี้ทำหน้าที่ยึดกระจกให้เลื่อนไปตามรางบนและรางล่างเพื่อเปิด-ปิดบาน โดยเสาที่เราเห็นจะมีอยู่ 2 แบบ คือ เสากุญแจ และเสาเกี่ยว

ภาพแสดงตำแหน่ง “เสากุญแจ” และ “เสาเกี่ยว”
เสากุญแจ คือ เสาที่ติดตั้งอุปกรณ์ล๊อคของบานประตู-หน้าต่าง เพื่อทำหน้าที่ล็อคระหว่างบานด้วยกัน หรือล็อคระหว่างตัวบานกับเฟรม (เฟรม = วงกบที่ติดตั้งกับผนังปูน) ขนาดความกว้างมาตรฐานของเสากุญแจทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 5 ซม

เสากุญแจ ทำหน้าที่ล็อคบาน
3.2 หน้าต่าง บานเปิด / บานกระทุ้ง
หน้าต่างอลูมิเนียมบานเปิด และหน้าต่างบานกระทุ้ง เป็นระบบที่สามารถกันน้ำ ฝุ่น เสียง ได้ดีที่สุด เพราะวงกบบานมียางหุ้มรอบตัว หน้าต่างบานกระทุ้ง มักมีราคาสูงกว่าหน้าต่างบานเลื่อน และทำขนาดได้ไม่ใหญ่มาก หน้าต่างบานเปิด หน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบบานเดี่ยวหรือบานเปิดคู่ และยังติดตั้งคู่กับช่องแสงได้ตามต้องการ

หน้าต่างอลูมิเนียม บานเปิด

หน้าต่างบานกระทุ้ง
การติดตั้งหน้าต่างอลูมิเนียมบานเปิดหรือหน้าต่างบานกระทุ้ง ควรคำนึงถึงตำแหน่งของหน้าต่างให้ดี เพราะต้องเหลือพื้นที่ไว้รองรับการเปิดของบานด้วย เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ หน้าต่างประเภทนี้จึงมักติดตั้งในจุดที่ไม่มีคนเดินผ่านบ่อย โดยหน้าต่างอลูมิเนียมบานเปิด และ หน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถประยุกต์การติดตั้งได้หลายรูปแบบตามความสวยงามหรือความเหมาะสมของพื้นที่
ตัวอย่างรูปแบบ หน้าต่างบานเปิด
ตัวอย่างรูปแบบ หน้าต่างบานกระทุ้ง
โดยทั่วไป การเรียกว่าบานเปิด คือการใช้บานพับที่จุดหมุนจะอยู่ที่วงกบ มักจะติดตั้งในลักษณะเปิดด้านข้าง เปิดได้ 90 องศาหรือมากกว่า แต่ต้องระวังลมตี เพราะบานพับไม่สามารถเปิดค้างแล้วล็อกไว้ได้ ส่วนหน้าต่างบานกระทุ้งคือหน้าต่างที่ใช้แขนค้ำระบบฝืด (friction stay) เป็นตัวบังคับการเปิดปิด เมื่อเปิดแล้ว หน้าต่างจะค้างไว้ด้วยแขนค้ำ ไม่พับกลับเมื่อโดนลมตี ติดตั้งได้ทั้ง กระทุ้งจากด้านข้าง หรือ กระทุ้งจากด้านล่างบาน
แขนค้ำ (Friction Stay) ในหน้าต่างบานเปิด หน้าต่างบานกระทุ้ง
เจ้าของบ้านสามารถเลือกทิศทางการเปิดของบานหน้าต่างอลูมิเนียม เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน หรือทิศทางลมที่ต้องการ หรือใช้ในจุดที่ต้องการเปิดระบายอากาศอยู่ตลอดเวลา เช่น ทำเป็นบานเล็กๆ ในห้องน้ำ ห้องครัว หรือทางเดินระหว่างบันได ราคาหน้าต่างบานกระทุ้งมักมีราคาต่อตารางเมตรสูงกว่าบานเลื่อน เพราะต้องใช้อลูมิเนียมที่หนาขึ้น และอุปกรณ์ติดตั้งที่รับแรงลมได้มากขึ้น

การติดตั้ง หน้าต่างบานกระทุ้ง บริเวณจุดต่างๆ ภายในบ้าน
หน้าต่างบานเปิด และหน้าต่างบานกระทุ้ง ของโออาร์เอ็ม แบ่งออกเป็น 2 รุ่น เช่นเดียวกับระบบบานเลื่อน ได้แก่ รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) และรุ่น Pano Suit (พาโน สูท) ทั้งสองรุ่น มีขนาดเฟรมวงกบ 2 ขนาด คือ 9 ซม. และ 4 นิ้ว
1. รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) – มีกรอบบาน 2 ขนาด รองรับทั้งระบบล็อคจุดเดียว และล็อคหลายจุด
2. รุ่น Pano Suit (พาโน สูท) – สามารถทำบานขนาดใหญ่กว่า รองรับเฉพาะระบบล็อคหลายจุด

หน้าต่างบานเปิด และหน้าต่างบานกระทุ้ง ของโออาร์เอ็ม สามารถดีไซน์ได้หลายรูปแบบ มีความสวยงาม ทันสมัย บานดูโปร่ง สลิม ไม่เทอะทะ รับวิวได้เต็มที่ มีฉากกันฝน และผนังกันน้ำ ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมจากผนัง หรือรอยต่อบาน สามารถติดตั้งร่วมกับช่องแสงได้รอบบาน โดยไม่ต้องเพิ่มกรอบบานให้หนาจนบดบังวิว และรองรับการทำบานขนาดใหญ่ได้ ด้วยการออกแบบให้การประกอบบานมีความแข็งแรงกว่าชุดท้องตลาดทั่วไป
หน้าต่างบานกระทุ้ง ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ระบบล็อคจุดเดียว Single Lock

หน้าต่างบานกระทุ้ง ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น Asia Trop (เอเชีย ทร็อพ) ระบบล็อคหลายจุด Multipoint Lock
หน้าต่างบานเปิด หน้าต่างบานกระทุ้ง ORM (โออาร์เอ็ม) รุ่น Pano Suit (พาโน สูท)
3.3 ประตูบานเปิด
ประตูบานเปิดคือ ประตูที่ใช้ได้ทั้ง ภายใน และ ภายนอกอาคาร มีระบบบังใบรอบตัว ต้องเลือกรูปแบบ การเปิดเข้า หรือ เปิดออกตั้งแต่ติดตั้ง ประตูบานเปิดสามารถปรับใช้ได้ ทั้งบานเดี่ยว และ บานคู่ และยังปรับใช้ภายในอาคารโดยไม่ต้องการธรณีล่าง ก็ติดตั้งได้โดยไม่มีธรณีล่าง หรือ สำหรับจุดที่ต้องรับน้ำ ลม ฝุ่น หรือ ภายนอกอาคาร ก็เพิ่มธรณีล่างได้เช่นกัน (ช่างอลูมิเนียมมักจะเรียกระบบประตูบานเปิดนี้ว่า บานเปิดวงกบไม้ เพราะเป็นการทำอลูมิเนียมให้มีวงกบบังใบ เหมือนวงกบประตูไม้)

ประตูบานเปิดเดี่ยว และ ประตูบานเปิดคู่
ประตูบานเปิดวงกบไม้โออาร์เอ็ม มีขนาดเฟรม 2 ขนาด คือ 9 ซม. และ 4 นิ้ว สามารถทำได้ทั้งบานเปิดเดี่ยวและบานเปิดคู่ มีความแข็งแรง สวยงาม ตัวบานมีความสมมาตร และมีวงกบบังใบรอบบาน ช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น จิ้งจก แมลง ฝุ่นละออง อีกทั้งยังกันน้ำและแสงลอดผ่านด้วยระบบบังใบสำหรับบานเปิดคู่ และรองรับระบบล็อคหลายจุด Multipoint Lock

ประตูบานเปิด ORM (โออาร์เอ็ม) ติดตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอก
3.4 ประตูบานสวิง
ประตูบานสวิงมีหน้าตาคล้ายกับประตูบานเปิด แต่แตกต่างกันที่บานสวิงสามารถผลักเข้า-ออกได้ทั้งสองทาง (180 องศา) จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีคนเดินเข้าออกบ่อยๆ เพราะเปิด-ปิดง่าย โดยประตูบานสวิง เหมาะกับการใช้งานภายใน หรือติดตั้งบริเวณภายนอกที่มีกันสาด เพราะไม่มีระบบกันน้ำ บานสวิงสามารถติดตั้งแบบไม่มีธรณีประตูหรือมีธรณีแบบไม่กันน้ำได้ การติดตั้งบานสวิงมักจะติดตั้งพร้อมกับโช๊คอัพที่ฝังบนวงกบและฝังที่พื้น เป็นเสมือนบานพับประตู หรือบางท่านเรียกว่า โช็คอัพ (door closer)

ประตูบานสวิง แบบบานเปิดเดี่ยว และบานเปิดคู่
ประตูบานสวิง ORM (โออาร์เอ็ม) มีขนาดเฟรม 4 นิ้ว มีคุณสมบัติในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง จิ้งจก แมลง เพราะสามารถใส่สักหลาดได้รอบบาน สวยงาม ทันสมัย เพราะกรอบบานมีความสมมาตรเหมือนกับประตูบานเปิดวงกบไม้ (มีความกว้างเท่ากันทั้ง 4 ด้าน) ระบบบานสวิงของโออาร์เอ็ม สามารถทำบานได้ใหญ่กว่า สูงกว่า แข็งแรงกว่า รวมถึงปลอดภัยกว่างานท้องตลาดทั่วไป เพราะรองรับระบบแกนล็อคบน-ล่าง หรือระบบล็อคหลายจุด นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปประยุกต์เพื่อติดตั้งเป็นบานแขวนได้ เนื่องจากบานแขวนรางเล็ก สามารถใช้กับระบบบานเลื่อนโออาร์เอ็มได้ นิยมนำไปใช้กั้นห้องต่างๆภายในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น

ประตูบานแขวน ORM (โออาร์เอ็ม)
3.5 บานเฟี้ยม
ประตูบานเฟี้ยม คือบานที่พับทับกันเป็นชั้นๆ โดยประกอบไปด้วยบานประตูเล็กๆ หลายบานที่มาต่อกันด้วยบานพับ หากพับเก็บบานจนสุด จะสามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่ ช่วยให้บ้านดูกว้างและโล่งมากกว่าประตูรูปแบบอื่น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย สามารถติดตั้งเพื่อเป็นประตู-เข้าออก กั้นพื้นที่ภายในระหว่างห้อง หรือภายในและภายนอกบ้าน ระบบรางของประตูบานเฟี้ยมจะมีระบบกันน้ำ สำหรับใช้งานภายนอก และ ระบบฝังรางลงพื้นสำหรับภายใน เพื่อไม่ให้เดินสะดุดบาน ประตูบานเฟี้ยมจัดเป็นชนิดบานที่มีราคาสูงที่สุด เพราะใช้อลูมิเนียมที่มีความหนาพิเศษในการรับแรง และใช้อุปกรณ์บานพับ ตัวล็อกต่างๆ มากกว่าบานชนิดอื่นๆ

ตัวอย่างรูปแบบประตูบานเฟี้ยม
การออกแบบประตูบานเฟี้ยมต้องคำนึงถึงจำนวนบานและทิศทางการพับของบานให้ตรงกับทางเดิน เช่น ต้องมีบานพับไปทางซ้ายกี่บาน และพับไปทางขวากี่บาน เพื่อให้เปิดเข้าออกสะดวกมากที่สุด

ประตูบานเฟี้ยม
ประตูบานเฟี้ยม ORM (โออาร์เอ็ม) มีขนาดเฟรม 2 ขนาด คือ 9 ซม. และ 4 นิ้ว มีความสวยงาม และแข็งแรงกว่าประตูบานเฟี้ยมทั่วไป ด้วยเทคโนโลยี Double Volume รางบนระบบท่อคู่ สำหรับบานที่มีขนาดสูงหรือกว้างเป็นพิเศษ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย ถูกออกแบบระบบให้ประกอบและติดตั้งง่าย จึงประหยัดเวลา สะดวก รวดเร็ว รองรับระบบล็อคหลายจุด Multipoint Lock และมีรางล่างให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบมีบังใบ และแบบรางฝังพื้น (ไม่มีบังใบ) ที่เหมาะกับการใช้งานภายในเพราะไม่มีธรณี และยังสามารถนำไปติดตั้งบริเวณโรงจอดรถได้ เพราะรถสามารถแล่นเหยียบบนรางได้

รางบน ประตูบานเฟี้ยม ORM (โออาร์เอ็ม) ใช้เทคโนโลยี Double Volume รางบนระบบท่อคู่เพิ่มความแข็งแรง ให้ตัวบานเลื่อนง่าย รางไม่ฝืด

เปรียบเทียบหน้าตัดรางบน ประตูบานเฟี้ยม ORM (โออาร์เอ็ม) และประตูบานเฟี้ยมทั่วไปตามท้องตลาด

รางล่างประตูบานเฟี้ยม ORM (โออาร์เอ็ม) เหมาะกับการใช้งานภายนอกทั่วไป
รางล่างประตูบานเฟี้ยม ORM (โออาร์เอ็ม) แบบไม่มีบังใบ ไม่มีธรณี
3.6 บานตาย หรือ บานช่องแสง
หน้าต่างบานติดตายหรือช่องแสง คือบานที่เปิดไม่ได้ ติดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการรับแสงธรรมชาติ บ้านส่วนใหญ่จึงติดตั้งช่องแสงแทนผนังด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้บ้านดูกว้างขวาง สวยงาม โดยหน้าต่างบานตายหรือบานช่องแสงจะได้พื้นที่กระจกกว้าง รับวิวได้เต็มที่ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัด ข้อดีของบานตายหรือช่องแสง คือไม่มีอุปกรณ์เสริมเหมือนหน้าต่างชนิดอื่นๆ จึงไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย และสามารถผสมช่องแสงกับประตู-หน้าต่างชนิดอื่นๆได้อย่างอิสระตามความเหมาะสม เช่น ช่องแสงข้างๆประตูทางเข้าบ้าน หรือ ช่องแสงด้านบนบานเลื่อน เป็นต้น
การติดตั้งช่องแสงบริเวณจุดต่างๆภายในบ้าน
บานช่องแสง หรือบานติดตาย ORM (โออาร์เอ็ม) มีขนาดเฟรม 2 ขนาด คือ 9 ซม. และ 4 นิ้ว เพื่อการติดตั้งกับวัสดุที่หลากหลาย อาทิ อิฐมอญ พรีแคส อิฐมวลเบา ระบบถูกออกแบบให้กรอบบานมีดีไซน์สลิม ไม่หนาเทอะทะ แม้ติดตั้งร่วมกับบานอื่นๆ จึงได้พื้นที่กระจกกว้างกว่า รับวิวได้เต็มที่ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย และออกแบบให้มีระบบผนังกันน้ำ ลดการพึ่งพาซิลิโคน จึงป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ช่องแสง” ติดตั้งร่วมกับหน้าต่างบานกระทุ้ง ORM (โออาร์เอ็ม)

“ช่องแสง” ติดตั้งร่วมกับ ประตู หน้าต่างบานเลื่อน ORM (โออาร์เอ็ม)
3.7 ระบบผนังกระจกเคอร์เทนวอลล์
ชุดอลูมิเนียมเคอร์เทนวอลล์ คือระบบผนังกระจกที่สามารถทำได้ขนาดความสูงและกว้างขึ้น เพื่อรองรับแรงลม หรือ จุดที่ต้องการความแข็งแรงมากขึ้น มักใช้สำหรับผนังกระจกที่มีความสูงมากๆเกินที่ช่องแสงธรรมดาจะทำได้ หรืออาคารสูง หรือห้องที่ต้องการความโล่ง โปร่ง ช่วยให้มองเห็นวิวจากภายนอกชัดเจน ประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ผนังอาคาร ห้องโถง โถงบันได หรือห้องกระจกภายใน สามารถออกแบบให้ทำสูงได้ตั้งแต่พื้นถึงเพดาน (floor to ceiling) เพราะตัวระบบอลูมิเนียม รับน้ำหนักได้ดีกว่าช่องแสงบานตายทั่วไป
ระบบผนังกระจกเคอร์เทนวอลล์
ระบบผนังกระจกเคอร์เทนวอลล์ ORM (โออาร์เอ็ม) มีขนาดเฟรม 2 ขนาด คือ 4 นิ้ว และ 6 นิ้ว ผ่านการคำนวณให้หน้าตัดรับแรงลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความแข็งแรงเท่ากับระบบไทยมาตรฐาน (ชุดท้องตลาด) แต่น้ำหนักเบากว่า มั่นใจได้ในความปลอดภัย และใช้เทคโนโลยี Sleeve Transom (ติดตั้งเสา Mullion ก่อนการใส่ Transom โดยไม่ต้องใช้ฉากข้อต่อ เพราะยึดด้วยระบบปลอกข้อต่อตัวนอน)
4. ผู้ใช้งานมีความต้องการอย่างไร เช่น เป็นจุดที่เปิด-ปิดบ่อย, มีการใช้รถเข็น, มีเด็กเล็ก, ห้องความดันลบ, ระบบล็อคอัตโนมัติ ฯลฯ
เจ้าของบ้านควรแจ้งลักษณะการใช้งานให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ติดตั้งแนะนำระบบประตูหน้าต่างที่ตอบโจทย์มากที่สุด เช่น หากติดตั้งประตูบานเลื่อนในจุดที่ต้องมีการใช้รถเข็นผ่านบ่อยๆ ควรเลี่ยงการใช้ประตูบานเลื่อนที่มีราง หรือธรณีสูง เพื่อป้องกันปัญหาสะดุดราง หรือหากติดตั้งระบบบานหมุน อาจทำให้เหลือพื้นที่สำหรับเข้า-ออกน้อยลง และไม่เหมาะกับการเปิด-ปิดบ่อยๆ

การใช้ระบบประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม ที่มีธรณีต่ำ ป้องกันปัญหาเดินสะดุด
การตกแต่งบ้านด้วยประตูบานหมุน ต้องคำนึงถึงพื้นที่เข้า-ออกหลังจากเปิดบาน
5. การทดสอบของประตูหน้าต่าง เช่น มอก.ระดับ 1-5 หรือ มาตรฐานอื่นๆ อาทิ การกันน้ำ กันลม กันฝุ่น
ประตูและหน้าต่างที่ดีต้องมีมาตรฐานการทดสอบรองรับ เช่น มอก.744-2563 สำหรับหน้าต่าง และ มอก. 829-2563 สำหรับประตู ควรมีประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานเพื่อให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่าประตู-หน้าต่างที่ตนเลือกใช้จะช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอม มอบความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกสบาย และเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย โดยในปัจจุบัน มีองค์กรต่างๆที่ได้กำหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานว่าประตู-หน้าต่างที่ดีควรผ่านการทดสอบประสิทธิภาพในด้านไหน เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ทดสอบแรงที่ใช้เปิด – ประตูหน้าต่างที่ดีต้องไม่ฝืด หรือติดขัดเวลาใช้งาน เจ้าของบ้านสามารถเปิดปิดได้ง่ายดาย โดยออกแรงในระดับที่เหมาะสม
ทดสอบการรั่วซึมของอากาศ – ประตู-หน้าต่างที่ได้มาตรฐานต้องไม่มีอากาศรั่วไหลทั้งจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน และจากภายในบ้านออกสู่ภายนอก หากอากาศจากด้านนอกสามารถรั่วไหลเข้าสู่ตัวบ้าน จะทำให้เกิดปัญหาเสียงหวีดลมเมื่อเจอลมพายุ มีฝุ่นละอองเข้าบ้าน รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ ในขณะเดียวกัน หากอากาศจากภายในบ้านรั่วไหลออกสู่นอกบ้าน ก็จะเพิ่มการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นโดยใช่เหตุ
ทดสอบการรั่วซึมของน้ำ – พายุฝนมักมาพร้อมกับแรงลมที่ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าสู่ตัวบ้านได้ ประตู-หน้าต่างที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำฝนรั่วซึมเมื่อเกิดแรงลม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพื้น ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน
ทดสอบการโก่งตัว – เมื่อเกิดลมพายุแรง ประตู-หน้าต่างที่ไม่ได้คุณภาพอาจมีการโก่งตัว ส่งผลให้บานหลุดแตกออกมาจากวงกบ และเป็นอันตรายกับเจ้าของบ้าน ประตู-หน้าต่างที่ดี จึงต้องมีความแข็งแรง ทนทาน มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่โก่งหรือแอ่นตัวเมื่อเจอลมพายุแรงๆ หรือเมื่อเกิดแรงกระแทก เช่นแรงจากการระเบิดของสิ่งแวดล้อม
ทดสอบแรงพิสูจน์ – คือการทดสอบค่าความปลอดภัยจากการคำนวณแรงดันลม (safety factor)จะต้องทนแรงดันได้ไม่ต่ำกว่า1.5 เท่าของแรงดันที่ใช้คำนวณ โดยที่ประตูหน้าต่างยังคงรูป ไม่เสียหายจากแรงดันพิสูจน์

การทดสอบมาตรฐานประตู-หน้าต่างอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) ณ ศูนย์ทดสอบประตู หน้าต่าง
และระบบผนังกระจกสำหรับงานอาคารอาคาร (TDWCB) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
6. สี ความหนา และ เกรด ของเนื้ออลูมิเนียม
อลูมิเนียมของโออาร์เอ็ม ผลิตจาก บ.ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด เพราะมีการทำสีด้วยระบบพ่นสีฝุ่น Powder Coating ด้วยนวัตกรรม PowderTechTM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการพ่นสีฝุ่นอัตโนมัติในแนวตั้ง ช่วยให้งานพ่นสีมีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอลูมิเนียมจะผ่านการอบความร้อนที่ 200 องศา ทำให้โมเลกุลสีเข้ากับผิวอลูมิเนียมอย่างแน่นสนิท ไม่ทำให้สีหลุดลอกล่อน ทนทานทุกสภาพอากาศ แดด รังสียูวี ไอทะเล ความชื้น ปลอดสนิมตลอดอายุการใช้งาน เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่าประตู หน้าต่างอลูมิเนียม จะมีคุณภาพ สีเรียบเนียนสม่ำเสมอ แตกต่างจากโรงพ่นสีแนวนอนทั่วไป ช่วยให้บ้านสวยยาวนาน และที่สำคัญคือ บ.ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด เลือกใช้สาร “เซอร์โคเนียม” ในกระบวนการผลิตแทนสารกลุ่ม “โครเมียม” ที่เป็นอันตราย (สาร “โครเมียม” ถูกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งที่ส่งผลเสียต่อผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ รวมไปถึงทำให้ปอดถูกทำลาย แต่ยังคงถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายในโรงงานผลิตอลูมิเนียมทั่วไป) อลูมิเนียมจากไทยเม็ททอล ซึ่งถูกนำมาประกอบเป็นประตู-หน้าต่างอลูมิเนียมโออาร์เอ็ม จึงมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระบวนการพ่นสีแนวตั้ง และการตรวจสอบคุณภาพ ของอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม)
อลูมิเนียมโออาร์เอ็ม มีสีมาตรฐาน ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Cotton White, สีเทาเมทัลลิค Aero Gray, สีดำ Space Black ชั้นความหนาของสีพ่น จะมีความหนามาตรฐานที่ 60-80 ไมครอน โดยเป็นความหนาที่ดีที่สุด เหมาะกับการอบความร้อน 200 องศา ไม่ทำให้สีหนา หรือ บาง เกินไป หรือ เกิดลักษณะผิวส้มกับชิ้นงาน ตรงตามมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) มีเงื่อนไขการรับรับประกันสีอยู่ที่ 10 ปี 
สีพ่น อาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ตามความคุ้นชินของผู้รับเหมา หรือ ช่างแต่ละท้องถิ่น เช่น “สีอบ” “สีพ่น” “สีเคลือบ” เป็นต้น และหากสนใจเป็นสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สีมาตรฐานของโออาร์เอ็ม เพียงระบุ รหัสสี โอยอ้างอิง รหัส RAL หรือ Pantone หรือ รหัสของผู้ผลิต “สีฝุ่น” โดยระบุความเงาของสี ระบุชนิดของผิว เช่น ผิวเรียบ หรือ ผิวทราย ทั้งนี้ การสั่งสีพิเศษ จะขึ้นอยู่การ เงื่อนไขการผลิตสีขั้นต่ำ ของผู้ผลิตผงสี เช่น สีบางเฉดอาจจะต้องสั่งสี 200 กิโลกรัมสี ซึ่งสามารถนำมาพ่นชิ้นงานอลูมิเนียมได้ถึง 1000 กิโลกรัม

ความหนาของอลูมิเนียม” ความหนาอลูมิเนียมเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่หลายท่านอาจจะเคยได้ยิน เช่น ยิ่งอลูมิเนียมมีความหนามากก็จะยิ่งแข็งแรงมาก ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้ถูกต้องเพียงบางส่วน ความหนาอลูมิเนียมที่มีความเหมาะสมในการนำมาประกอบติดตั้งเป็นประตู-หน้าต่างทั่วไปจะอยู่ที่ 1.2 มม. หรือ หน้าต่างบานเปิด/ หน้าต่างบานกระทุ้ง จะอยู่ที่ 1.5 มม. ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายที่ได้พัฒนาระบบอลูมิเนียมให้มีความหนาที่เหมาะสมในเชิงวิศวกรรม กล่าวคือ อลูมิเนียมไม่จำเป็นต้องมีความหนามาก แต่ก็มั่นใจได้ในประสิทธิภาพที่เหนือกว่าประตู-หน้าต่างที่เป็นรุ่นท้องตลาดทั่วไป เพราะผ่านการออกแบบระบบหน้าตัดให้มีความแข็งแรง รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่สามารถล็อคได้หลายจุด มอบความปลอดภัยได้มากกว่า รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมต่างๆ (เช่น อากาศ น้ำ เสียง ฝุ่นละออง แมลง) ไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่ตัวบ้าน

โดยระบบที่ถูกพัฒนานี้ ในวงการอลูมิเนียมจะเรียกกันว่า “ชุดพัฒนา” หรือ “ชุดยูโร” ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น ผู้ที่ต้องการความเงียบสงบสำหรับการพักผ่อนในห้องนอน ก็สามารถเลือกติดตั้งระบบประตู-หน้าต่างชุดพัฒนาร่วมกับกระจกที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวน เป็นต้น ซึ่งระบบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมโออาร์เอ็มจัดอยู่ในชุดพัฒนา ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าชุดไทยมาตรฐานตามท้องตลาดทั่วไป

“เกรดของอลูมิเนียม” อลูมิเนียมที่ใช้งานกันอยู่ เป็นโลหะที่เกิดจากการผสมโลหะหลายชนิดเข้าด้วยกัน อาทิ ผสมแมกนิเซียม ซิลิกอน หรือ ไทเทเนี่ยม เป็นต้น เกรดอลูมิเนียมที่เหมาะสมสำหรับทำประตูหน้าต่างคือ 6063T5 ซึ่งเป็นเกรดที่ยอมรับกันทั่วโลก มีความแข็งที่พอดี สามารถประกอบได้อย่างแข็งแรง ซึ่งเกรดของอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) ก็คือเกรด 6063T5 นั่นเอง
7. ชนิดกระจกที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ในการติดตั้งบานประตู หน้าต่างอลูมิเนียม สิ่งสำคัญที่ควรนำมาพิจารณาร่วมกับอลูมิเนียมคือ กระจก เพราะกระจกจะอยู่ติดกับกรอบบานประตู หน้าต่างที่เราต้องใช้งานอยู่สม่ำเสมอ โดยกระจกในแต่ละรูปแบบ ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป และยังมีกระจกที่ช่วยลดแสง ลด UV หรือ มีสีเทา สีชา อีกหลากหลายชนิด

• กระจกธรรมดา/กระจกโฟลต เป็นกระจกสเป็คทั่วไปที่มีผิวทั้งสองด้านเรียบสนิท มีความโปร่งใส มีความหนาที่นิยมใช้ คือ 5 ,6 ,8 มิลลิเมตร ถ้าต้องการหนากว่านี้ ระบบอลูมิเนียมจะต้องรองรับความหนาและน้ำหนักกระจกได้ด้วย
• กระจกลามิเนต เป็นการนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมายึดติดกันด้วยแผ่นฟิล์ม (PVB) คล้ายๆแซนวิช ที่มีความเหนียวทนทานคั่นอยู่ระหว่างกลาง ทำหน้าที่ยึดเกาะให้กระจกติดกัน เมื่อกระจกแตก แผ่นฟิล์มจะยึดเกาะไม่ให้กระจกหลุดร่วง จะมีเพียงรอยแตก หรือรอยร้าวคล้ายใยแมงมุมเท่านั้น ความหนาที่นิยมใช้ คือ 3+3 , 4+4 มิลลิเมตร

• กระจกเทมเปอร์ กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) เป็นกระจกที่ผ่านการอบความร้อนให้แข็งพิเศษ แข็งแรงกว่ากระจกทั่วไปประมาณ 4-5 เท่า เมื่อกระจกแตก กระจกจะแตกตัวเป็นเม็ดข้าวโพด ความหนาที่นิยมใช้ คือ 5, 6, 8 มิลลิเมตร

• กระจกอินซูเลท กระจกอินซูเลท หรือกระจกฉนวนอากาศ ประกอบด้วยกระจก 2 แผ่นคั่นด้วยอากาศแห้ง หรือ แก๊สเฉื่อย เพื่อลดการนำความร้อน กระจกชนิดนี้จะมีความหนารวมช่องว่างที่หนามาก เพราะฉะนั้นระบบอลูมิเนียมจะต้องรองรับความหนาและน้ำหนักกระจกได้ด้วยถึงจะติดตั้งได้

• กระจกฝ้า กระจกฝ้า คือกระจกที่ผ่านการพ่นทรายเพื่อให้มีความทึบแสงมากขึ้น ใช้ในกรณีที่ต้องการปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงต้องการให้แสงส่องผ่านได้ มักนำมาทำเป็น กระจกห้องอาบน้ำ ตู้อาบน้ำ หรือฉากกั้นอาบน้ำ ความหนาที่นิยมใช้ คือ 5, 6, 8 มิลลิเมตร
• กระจกตกแต่งอื่นๆ อาทิ กระจกลายผ้า กระจกลูกฟูก กระจกเงา กระจกลายโบราณ กระจกสีเทา กระจกสี
8. อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ ประตู-หน้าต่าง อาทิ ลูกล้อ มือจับ ตัวล็อก ซิลิโคน ยางกันน้ำ การฉีดโฟม ฯลฯ
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การใช้งานประตูหน้าต่างมีความง่าย สะดวกสบายมากขึ้น เช่น การใช้ลูกล้อที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้เลื่อนบานได้ลื่นขึ้น ส่งผลให้อายุการใช้งานของประตูหน้าต่างยาวนานกว่าเดิม

มือจับ ประตู-หน้าต่าง บานเลื่อน

แขนค้ำสำหรับติดตั้งกับหน้าต่างบานเปิด หน้าต่างบานกระทุ้ง

บานพับ และระบบล็อค ประตูบานเฟี้ยม

มือจับ ประตูบานเปิด หน้าต่างบานเปิด
9. ความชำนาญการของผู้ติดตั้งอลูมิเนียม
การติดตั้งประตู-หน้าต่างของช่างอลูมิเนียมเป็นศาสตร์เฉพาะที่แยกออกจากผู้รับเหมาโครงสร้าง ปัจจุบัน จึงมีบริษัทที่รับติดตั้งประตูหน้าต่างโดยเฉพาะ เจ้าของบ้านจึงควรเลือกผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีตัวอย่างผลงานที่น่าเชื่อถือ และเลือกใช้เส้นอลูมิเนียมจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน
เจ้าของบ้านอาจสอบถามช่างว่าสามารถทำได้ทั้งระบบไทยมาตรฐาน และระบบพัฒนาหรือไม่ ถนัดงานติดตั้งแบบไหน เช่น งานบ้าน งานโครงการ แนวราบ/แนวสูง และต้องตรวจสอบสเป็ค ความถูกต้องของวัสดุ ยี่ห้ออลูมิเนียม ความหนา ระบบที่เลือกใช้ ชนิดของบาน ระบบสี กระจก และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ อาทิ มือจับ ตัวล็อก ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด โดยสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือจาก check list ด้านล่าง ก่อนจะตัดสินใจเลือกผู้รับเหมา หรือช่างติดตั้ง
• มีบริษัท (หรือร้านค้า) ที่มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่งแน่นอน
• มีประสบการณ์ มีตัวอย่างผลงานที่น่าเชื่อถือ
• มีเอกสารสัญญาที่ระบุรายละเอียดชัดเจนในเรื่องต่อไปนี้
• ค่าจ้างและการจ่ายเงินงวดที่ชัดเจน
• กำหนดระยะเวลาการผลิต และการติดตั้งที่แน่นอน
• มีการรับประกันความเสียหาย และระยะเวลาประกันงาน
• ระบุเงื่อนไขปรับลดค่าจ้างในกรณีที่งานเสร็จล่าช้า
• ผู้ติดตั้งต้องสามารถแจกแจงสเป็ค วัสดุอุปกรณ์ และระบบต่างๆได้อย่างละเอียด
10. ข้อจำกัดของพื้นที่ติดตั้ง
เจ้าของบ้านควรตรวจสอบข้อจำกัดต่างๆของพื้นที่ติดตั้งให้ละเอียด เช่น สามารถขนส่งบานขนาดใหญ่เข้าไปได้หรือไม่ งานซ่อมแซม(รีโนเวท) ต้องมีการรื้อถอน หรือ เกี่ยวข้องกับวัสดุอื่นๆหน้างานหรือไม่ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ อาทิ เครนยก หรือ กระเช้า เพื่อทำการติดตั้งหรือไม่ ตลอดจนลำกับการเข้างานของคิวช่างแต่ละประเภท ช่างปูน ช่างไม้ ช่างฝ้า ช่างอลูมิเนียม ช่างสี ช่างผ้าม่าน ฯลฯ
Check List ที่ควรเช็ค
• งานบ้านสร้างใหม่ หรือ รีโนเวท
• รื้อถอนบานเดิมหรือไม่
• บานเก่ามีปัญหาอะไรบ้าง
• ติดตั้งได้จากในอาคาร หรือ ต้องติดตั้งนอกอาคาร
• อาคารสูงกี่ชั้น พื้นที่ที่ติดตั้งเป็นชั้นที่เท่าไร
• ลำดับการเข้างานอลูมิเนียมที่เหมาะสมสำหรับบ้านสร้างใหม่คือ เข้าหลังงานฝ้าและสี แต่ก่อนงานเฟอร์นิเจอร์
• แยกงานติดตั้งมุ้งไปอยู่ท้ายสุดก่อนงานผ้าม่าน เพื่อป้องกันฝุ่นเกาะมุ้ง
• วัสดุที่อลูมิเนียมจะไปยึดติดต้องมีความแข็งแรงเพียงพอ เช่น เป็นปูน หรือ เหล็ก
• หากผนังฉาบบางไปหรือปูนไม่ดี ระหว่างการยึดบาน อาจทำให้เกินปูนร้านได้
• ขอบปูนที่ติดตั้ง มีดิ่ง ฉาก ที่ได้มาตรฐานงานติดตั้งหรือไม่

นอกเหนือจากประเภทของประตู-หน้าต่าง คำถามยอดฮิตที่ผู้รับเหมาหรือช่างอลูมิเนียมมักจะถามก็คือขนาดช่องเปิด หรือขนาดบานว่ามีความกว้างและสูงเท่าไหร่ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่เจ้าของบ้านควรเตรียมไว้เพื่อให้ผู้รับเหมาหรือช่างสามารถประเมินราคาเบื้องต้นได้
สำหรับบ้านสร้างใหม่ สามารถวัดจากขนาดช่องเปิดในแบบ หลังจากที่จับเซี้ยมปูนเสร็จแล้ว โดยแจ้งหน่วยเป็นหลักเซนติเมตรหรือมิลลิเมตร แต่หากต้องการรีโนเวทประตูหน้าต่าง ให้วัดขนาดตั้งแต่วงกบ (วงกบ = ส่วนที่ติดตั้งกับผนังบ้าน) ทั้งนี้ บานประตู-หน้าต่างอลูมิเนียมที่ผลิต จะมีขนาดเล็กกว่าช่องเปิดของบ้าน เพราะช่างต้องลดระยะจากขอบปูนเล็กน้อย (ด้านละ 5-10 มิลลิเมตร แล้วแต่เทคนิคการติดตั้ง) เพื่อให้สามารถปรับหาแนวระนาบและแนวดิ่งให้กรอบอลูมิเนียม และยังเป็นระยะมาตรฐานช่องว่างในการซีลวัสดุยาแนวเพื่อให้เกิดการยึดเกาะป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้ดีมากขึ้นและค่อยเก็บความเรียบร้อยด้วยซิลิโคนและกาว PU หรือ กาวอคริลิค

นอกจากขนาดของบานแล้ว เจ้าของบ้านควรแจ้งช่างเรื่อง “ความหนาของผนังบ้าน” ในจุดที่จะติดตั้งประตู-หน้าต่างด้วย เพื่อที่ช่างจะได้จัดหาระระบบประตู-หน้าต่างอลูมิเนียม ที่มีความหนาเฟรมเข้ากับผนังบ้านนั่นเอง
ทั้งนี้การวางอลูมิเนียมบนขอบปูน ก็ขึ้นอยู่กับความสวยงามหรือปัจจัยอื่นๆด้วย อาทิ ความกว้างของเฟรมอลูมิเนียมไทยมาตรฐานคือ 4 นิ้ว หรือ 10.16 เซนติเมตร หากวางบนผนังที่มีความกว้าง 9 เซนติเมตร จะต้องเลือกว่าจะวางเฟรมชิดในหรือนอก หรือ ระบบพัฒนาที่เฟรมมีความกว้าง 9 เซนติเมตร ติดตั้งอยู่บนผนังที่มีความกว้าง 4 นิ้ว หรือ 10.16 เซนติเมตร อาจจะต้องเลือกว่า จะวางอลูมิเนียม ชิดในหรือนอก หรือจะมีการตกแต่งผนัง หรือคิ้วบัว ด้วยวัสดุอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อความสวยงามหรือไม่
หากสนใจติดตั้งบานประตู หน้าต่างอลูมิเนียมโออาร์เอ็ม ในส่วนของราคาเป็นอย่างไร?

หากต้องการติดตั้งประตู-หน้าต่าง สิ่งที่ควรคำนึงก็คือประเภทของบาน ขนาดบาน ความหนาของอลูมิเนียมที่เลือกใช้ ประเภทกระจก ความหนากระจกและระบบของประตูหน้าต่างที่ท่านเลือกใช้ตามข้อมูลข้างต้น เพราะประตูหน้าต่างเป็นองค์ประกอบหนึ่งในบ้านที่อยู่กับเราไปหลายสิบปี การเลือกใช้ประตูหน้าต่างที่ดีมีคุณภาพจึงเหมือนกับการซื้อประกันให้บ้าน ลดความเสี่ยง และเพิ่มความปลอยภัยในการใช้งานในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เราได้เก็บข้อมูลราคาเฉลี่ยที่ผู้ติดตั้งเสนองาน ดังรายการต่อไปนี้
• บานเลื่อน : ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 3,500-5,000 บาท สำหรับระบบไทยมาตรฐาน และ 5,500-6,800 บาท สำหรับระบบพัฒนา X20: ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 5,500-6,800 บาท* (อลูมิเนียมหนา 1.2 มม. สีพ่นมาตรฐาน กระจกโฟลตความหนา 6 มม.)
• บานเฟี้ยม : ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 10,000-12,500 บาท (อลูมิเนียมหนา 1.5 มม. สีพ่นมาตรฐาน กระจกโฟลตความหนา 6 มม.)
• บานเปิด/บานสวิง :ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 6,000-7,500 บาท (อลูมิเนียมหนา 1.5 มม. สีพ่นมาตรฐาน กระจกโฟลตความหนา 6 มม.)
• บานกระทุ้ง : ราคาประมาณบานละ 4,500-7,000 บาท สำหรับระบบไทยมาตรฐาน รุ่นยูเนี่ยน และ บานละ 6,800-17,000 บาท สำหรับระบบพัฒนา รุ่น A40 (อลูมิเนียมหนา 1.5 มม. สีพ่นมาตรฐาน กระจกโฟลตความหนา 6 มม.)

หมายเหตุ: ราคาต่อตารางเมตร แปรผันตามขนาดสินค้า สินค้าขนาดเล็ก จะมีราคาต่อตารางเมตรสูงขึ้น

และทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นข้อควรรู้ก่อนที่ท่านเจ้าของบ้านจะตัดสินใจเลือกติดตั้งประตู หน้าต่างอลูมิเนียม เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย ผ่านการติดตั้งประตูหน้าต่างที่ดีและได้มาตรฐาน โดยอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) เป็นระบบประตูหน้าต่างในเครือ บ.ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด ผู้ผลิตอลูมิเนียมรีดเส้นชั้นนำ ซึ่งได้รับใบรับรองคุณภาพ รวมถึงมาตรฐานและระบบปฏิบัติการต่างๆมากมาย อีกทั้งยังเป็นโรงงานผู้ผลิตอลูมิเนียมแห่งแรกในประเทศไทยที่ผ่านการขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ CFO & CFP จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) เพราะมีการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ตามพันธกิจองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม

• THAI INDUSTRY STANDARD TIS 284-2017 หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.284 – 2560)
• ISO 9001:2015 ระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพ
• ISO 14001:2015 ระบบบริหารการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
• ISO 50001:2011 ระบบบริหารการจัดการด้านพลังงาน
• คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์ (CFO & CFP)
• อุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 ระบบสีเขียว (GREEN SYSTEM) จากกระทรวงอุตสาหกรรม
• THAILAND TRUST MARK (T MARK ) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
• หนังสือรับรอง MADE IN THAILAND (MIT) จาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
หากท่านต้องการติดตั้งประตู-หน้าต่าง สามารถเจาะจงเลือกใช้ระบบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ORM (โออาร์เอ็ม) ผ่านผู้รับเหมา ช่างอลูมิเนียม หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่านได้ทั่วไทย
เพราะประตูหน้าต่างเป็นองค์ประกอบสำคัญในบ้านที่อยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี การเลือกใช้ประตูหน้าต่างที่ดีมีคุณภาพจึงเหมือนกับการซื้อประกันให้บ้าน โดย Check List ดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อควรรู้ที่เจ้าของบ้านควรพิจารณา ก่อนจะตัดสินใจเลือกติดตั้งประตูหน้าต่างอลูมิเนียม เพื่อความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีต่อผู้อยู่อาศัยในระยะยาว
เช็คลิสต์ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม
1. ยี่ห้อและชนิดของเส้นอลูมิเนียมที่ใช้ประกอบเป็นบานประตูหน้าต่าง
2. ตำแหน่งที่ติดตั้งบริเวณอาคาร
3. ประเภทและลักษณะของประตูหน้าต่างแบบต่างๆ
4. ความต้องการหรือข้อจำกัดของการใช้งาน
5. ประสิทธิภาพประตูหน้าต่างจากการทดสอบตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
6. สี ความหนา และ เกรด ของเนื้ออลูมิเนียม
7. ชนิดกระจกที่เหมาะสมกับการใช้งาน
8. อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ
9. ความชำนาญการของผู้ติดตั้งอลูมิเนียม
10. ข้อจำกัดของพื้นที่ติดตั้ง